ผมได้ลองทำ เพื่อให้เพื่อน ๆ ไดติชมผลงานของผมครับ
สร้างสื่อการสอนด้วย Adobe Captivate
วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
สื่อการสอน CAI captivate เรื่อง โปรแกรม Powerpoint ....
ผมเข้าไปหาข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรม powerpoint มา ได้พบ โปรแกรม CAI Captivate ... เลยเอามาฝากกันครับ
REF : http://salc.trang.psu.ac.th/caisalc/powerpoint2010/unit3/unit3.swf
หลังจากลงโปรแกรม Adobe Captivate 6 แล้วมีการอัพเดตปลั๊กอินเพิ่ม
หลักจากที่ผมลงโปรแกรม captivate เครื่องนี้ มีความรูํสึกว่า มันมีการอัพเดต ปลัีกอินอะไรไม่รู้เพิ่มเติ่มเยอะแยะมากมาย ไปหมด ใช้เวลาในการดาวน์โหลด นานพอสมควรครับ
แล้วหลังจากที่ลงโปรแกรม captivate อัพเดตเสร็จเรียบร้อย ผมก็เปิดโปรแกรมขึ้นมาดูครับ ใช้งานง่ายดีครับ เครื่องมือที่เคยชื่อแล้วมันหบล ๆ อยู่ เค้าก็เอามาไว้ข้างนอก ส่วนอันไหน ที่ไม่ค่อยใช้มันก็หายไปครับ ดีจังผมละชอบเลย
ผมเลยเริ่มทำสื่อการสอนเลยครับ บทแรกเลย เรื่อง การค้นหาและบันทึกรูปภาพจากอินเตอร์เน็ตครับ ดูผลงานของผมได้ที่ เว็บครูออฟเลยครับ (http://www.kruaof.com)
แล้วหลังจากที่ลงโปรแกรม captivate อัพเดตเสร็จเรียบร้อย ผมก็เปิดโปรแกรมขึ้นมาดูครับ ใช้งานง่ายดีครับ เครื่องมือที่เคยชื่อแล้วมันหบล ๆ อยู่ เค้าก็เอามาไว้ข้างนอก ส่วนอันไหน ที่ไม่ค่อยใช้มันก็หายไปครับ ดีจังผมละชอบเลย
ผมเลยเริ่มทำสื่อการสอนเลยครับ บทแรกเลย เรื่อง การค้นหาและบันทึกรูปภาพจากอินเตอร์เน็ตครับ ดูผลงานของผมได้ที่ เว็บครูออฟเลยครับ (http://www.kruaof.com)
สื่อการสอน Captivate เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ
ผมเคยทำสื่อการสอนชิ้นหนึ่งที่ทำด้วยโปรแกรม Captivate ผมทำในเรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ ครับ วันนี้ผมได้สอนหนังสือนักเรีรยนวิชาคอมพิวเตอร์ด้วยผมเลยมาทำสื่อการสอน Captivate ใหม่ครับ เรื่อ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ครับ
ก็เป็นสื่อการสอนง่าย ๆ สำหรับผมนะครับ เพระาผมถนัดกับการทำ captivate อยู่แล้ว แต่ผมก็จะทำไปเรื่อย ๆ เรื่อง ผมว่าจะทำลงเว็บไซต์เลยดีกว่าไหมครับ จะได้ เป็นสื่อการสอนที่ เผยแพร่ไปในตัวเลย แต่ที่นี่ผมทำเป็นตัวโปรแกรม EXE อยู่อ่ะสิครับ คราวต่อไป ผมทำสื่อการสอน ที่จัดทำด้วยโปรแกรม Captivate ผมจะเอามาเผยแพร่ ที่นี่ละกันครับ ยินดีเลยทีเดียว
รูปสำหรับการเผยแพร่ครับ
มีอีกนะครับ ลองไปค้นหาที่เว็บนี้เลยครับ => LESSON2PLAN.COM
วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557
ลงโปรแกรม Adobe Captivate 6 ใน Win7 เนี่ยยากแท้หยั่งถึง
วันนี้ผมตัดสินใจ ลงโปรแกรม WIN 7 เพื่อที่จะต้องการใช้โปรแกรม Adobe Captivate 6 เพื่อทำสื่อการเรียนการสอน กว่าผมจะลงได้น่ะ หลายรอบเลยที่เดียว มันลงยากแท้จัง แก้พอลงได้ ของผมใช้ ทดลองใช้อยู่นะครับ 30 วันเดียวผมซื้อ รหัส มาลง ตอนนี้ยังไม่มีเงินอ่า....
พอได้ทำสื่อบางตัวแล้วมีความรู้สักว่าง่าย เพราะมี template ให้ผมไว้อยู่แล้ว อันนี้ส่วนตัวชอบมาก แต่เครื่องมือ ต่าง ๆ ที่ผมเคยใช้น Adobe Captivate 3 มันหายไปหลบอยู่ไหนบ้างผมก็ไม่ทราบนะครับ ผมก็งู ๆ ปลา ๆ คล้ำทางไปเรื่อย ๆ เปลื่อยเลย แต่อย่างน้อยก็ได้สื่อการสอน มาได้บ้างตัวแล้วละครับ
ผมทำสื่อการสอน ด้วยโปรแกรม Adobe Captivate 6 มาเพื่อนใช้สอนนักเรียนของผมในวิชาคอมพิเตอร์ครับ ผมจะรวบรวมไว้ในเว็บไซต์ส่วนตัวของผมนะครับ อย่างไร ก็แวะเวียนไปติชมกันได้ครับ ที่เว็บครูออฟ (http://www.kruaof.com)
พอได้ทำสื่อบางตัวแล้วมีความรู้สักว่าง่าย เพราะมี template ให้ผมไว้อยู่แล้ว อันนี้ส่วนตัวชอบมาก แต่เครื่องมือ ต่าง ๆ ที่ผมเคยใช้น Adobe Captivate 3 มันหายไปหลบอยู่ไหนบ้างผมก็ไม่ทราบนะครับ ผมก็งู ๆ ปลา ๆ คล้ำทางไปเรื่อย ๆ เปลื่อยเลย แต่อย่างน้อยก็ได้สื่อการสอน มาได้บ้างตัวแล้วละครับ
ผมทำสื่อการสอน ด้วยโปรแกรม Adobe Captivate 6 มาเพื่อนใช้สอนนักเรียนของผมในวิชาคอมพิเตอร์ครับ ผมจะรวบรวมไว้ในเว็บไซต์ส่วนตัวของผมนะครับ อย่างไร ก็แวะเวียนไปติชมกันได้ครับ ที่เว็บครูออฟ (http://www.kruaof.com)
วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2556
CAI กับมือปืนDigital ในยุคต่อไปของ CAI สื่อการสอนจะต้องทันสมัยยิ่งขึ้น (ครูครับหมดเงินไปเยาะไหม)
ตอนนี้ใครๆก็คงคุ้นหูกับคำว่า CAI (Computer Assisted Instruction)
และต่อไปสิ่งนี้จะไม่อยู่เพียงแค่หน้าจอคอมพิวเตอร์ นั่นหมายถึงการใช้งานผ่านอุปกรณ์ Mobile เช่น Tablet เป็นต้น
เครื่องมือที่ใช้ทำก็ต้องทันสมัยด้วยไม่ใช่ไปจบที่ Autoware ขอบเก่าแล้วครับพัฒนาต่อก็ลำบาก แล้วอะไรจะมีอนาตคกับสื่อแบบใหม่หละ Adobe Flash, Adobe Air, HTML5 <--- นี่คืออนาคต
แต่
ปัจจุบัญคนที่สามารถสร้างสรรค์งาน CAI สวยๆ ดีๆ นั้นมีน้องเพียงหยิบมือ ถึงสร้างออกมาก็ไม่สวย กระโหลกกะลา ดูไม่น่าสนใจ ก็เป็นผลให้งานตัวเองไม่ผ่านเพราะไปจ้างมือฝึกหัดที่ขาดความเป็น Artist มาทำ(เข้าใจว่าเด็กใหม่แต่มีฝีมือก็มีแต่ก็น้อยอีกเช่นกัน)
ขอพาดพิงถึงคุณครูหรือ น.ศ. หลายๆท่าที่ทำผลงานออกมาแต่ "มันไม่โดนอะ" << คำนี้น่าจะเหมาะสม และอีกหลายท่าที่ทำ อ.3 หรือ วิทยานิพนธ์ใน ป.ตรี/โท ที่ใช้ Upgrade วิทยฐานะของตน ทำแล้วงานไม่สามารถต่อยอดได้ "ผมเรียกว่า ทำออกมาแล้วมันตัน พัฒนาต่อไม่ได้ หรือพัฒนาต่อก็ลำบากไป" ผลงานชิ้นนั้นก็ต้องจบเพียงตรงนี้
ถ้า นักศึกษาหรือครู ที่ทำงานวิจัยซักชิ้น เผยแพร่งานของตัวเองมันก็เป็นเรื่องที่ดีทีเดียว โดยส่วนตัวก็รับงานทำสื่อการสอนอยู่ ziastudio.com เป็น Flash CAI แต่เราเน้นออกแบบและเพิ่มความน่าใช้ของตัวสื่อ และก็ได้เคยพูดคุยกับครูหลายท่าว่าบางคนใช้งบหมดไปเป็นแสน "คุณพระ" ปรับตำแหน่งขั้นหนึ่ง เพิ่มเงินเดือนอีกหน่อย มันก็ต้องทำ ส่วนมากได้ข่าวจากวงในว่าหมดกับการยื่นเงินให้เจ้าหน้าที่เพื่อให้งานประเมินได้ไวๆ (อันนี้ไม่รู้นะอาจเป็นข่าวลืมก็ได้ 555)
พอถึงตอนเผยแพร่ผลงานส่วนมากที่เห็นก็แจกพวก เอกสารปะหน้าตามเว็บ แต่ตัวผลงานถ้าไม่ใช้ที่เกี่ยวข้อกับ website ละก็ ถูกดองไว้กับรูปเล่นหนาๆ ในตู้กระจกแค่นั้น
เสียดายเงินแสน
ถ้าเลือกได้อยากจะแนะนำให้ไปอัดงบในส่วนของเนื้องานจริงๆอีกหน่อย เคยเจอบางคนต่อราคาซะไม่เหลือค่าขนม เราเข้าใจว่ามีเหตุการแบบที่ว่ามา...เกิดขึ้นกับทุกวงการ แต่ลองปรับความคิดอีกนิด เช่นถ้าเจอมือปืนที่มีฝีมือแล้วงานออกมาดี ก็สมควรที่จะอัดฉีดมูลค่าเข้าไปอีกหน่อย เพราะอย่างไรเสีย งานสวยเริดกว่าเพื่อนบ้านยังไงๆก็ต้องผ่านอยู่แล้ว อาจลดจำนวนเงินที่ใช้กับใต้โต๊ะลง กระโดดเข้าหาคนตรวจอนุมัติทันที(อันนี้ผมคิดเองนะ)
มันอาจจะได้ผลให้ลดค่าใช้จ่ายโดยรวม และเราก็เทค่าใช้จ่ายไปเพิ่มในส่วนเนื้องานจริงมากขึ้น จะส่งผลให้เราสามารถต่อรองกับมือปืนของเราเองได้ว่า จัดการแบบโหดเอ้ยผิดแล้ว!! ฉันขอเพิ่มฟังชั่นนี้เข้าไปนะ..... อะไรก็ว่ากันไป ส่งผลให้งานของเราดีกว่าคนอื่นๆในระดับเดียวกับ
สุดท้ายยังไงๆคนที่ทำผลงานด้านสื่อ Digital ก็ยังต้องอาศัยมือปืนเช่นเคย เพราะเราต้องรวมจุดแข็งของทั้ง2 ฝ่ายไว้
ครู, น.ศ. ผู้ว่าจ้าง : ต้องการชิ้นงานดี แต่ฝีมือไม่ได้เรื่อง แต่รู้คอนเซ็ปต์งาน
มือปืน ผู้รับจ้าง : ต้องการเงินดี ฝีมือโปร พร้อมรับฟังคอนเซ็ปต์งาน
ส่วนคนที่กำลังคิดจะจ้างมือปืน แนะนำให้ขอดูผลงานก่อน ถ้าผลงานเข้าตาก็จัดเลย อย่ามัวแต่ต่อราคาเขาจนไม่เหลือค่าขนมถุง เพราะถ้ามีคนอื่นจ้างในราคาสูงกว่าเขาคนนั้นหรือฉันคนนี้ก็จะจากไป
ตัวผมเองเวลาประเมินราคาผมจะประเมินราคากลางและ+ค่าฝีมือลงไปนิดหน่อย แต่โดยรวมก็จะถูกว่าจ้างบริษัททำแน่นอน ซึ่ง 70% ของลูกค้าที่เจอจะต่อราคา และอีก 30% นี้จะเป็นลูกค้าชั้นดีที่ อาจเจ็บตัวมาก่อนอิอิ แล้วลูกค้า 2 กลุ่มต่างกันตรงไหน ก็ตรงที่กลุ่ม 30% จะไม่ได้ตัดอะไรจากงานเลย Full Function มีอะไรดีๆใหม่ๆ เกิดประโยชน์กับงานเข้าเราก็จะแนะนำก่อนเลยซึ่ง service ก็จะดีกว่ารายที่ต่อราคามากๆ
แต่ถ้าต่อราคาจนเรารับไม่ได้ และขอลดความสวยความเด่นของงานไปผมก็จะไม่รับงานนั้น เหตุผลเพราะงานที่ออกมาเป็นผลงาน Portfolio ของเราเองไว้อ้างอิงลูกค้าคนอื่น ถ้าประเมินแล้วงานออกมาไม่ดีมันส่งผลเสียกับ Profile ของเราโดยตรง
รูปทั้งหมดเป็นผลงานจริงของผมเองครับ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านครับ
ziastudio.com
วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)